เทคนิคการทำความสะอาดรถ (ล้างรถ)
อุปกรณ์
แชมพูล้างรถ ผ้าล้างรถสองผืน ผ้าเช็ดรถสองผืน ถังน้ำใหญ่ๆหนึ่งใบ (เอาไว้ล้างผ้า) ใบเล็กๆหนึ่งใบ(เอาไว้ผสมแชมพู)
1. ล้างตอนเครื่องเย็น และ อากาศเย็น จะเป็นการดี ตอนเช้าๆจะเหมาะสุด ตอนเย็นก็พอไหว ไม่ต้องกลัวเรื่องสนิม เพราะ รถสมัยใหม่โอกาศเกิดสนิมยากมาก ที่ให้ล้างตอนอากาศเย็น เพราะน้ำจะไม่แห้งง่าย ไม่เป็นคราบน้ำ และ ตัวคนล้าง จะไม่ร้อน ไม่ใจร้อน ชิวๆ ประมาณนั้น
2. ไม่จำเป็นไม่ต้องปัดฝุ่น เพราะ มันจะก่อให้เกิดรอยขนแมวได้ง่าย แต่ถ้าไม่สะดวก แนะนำไม้ปัดขนแกะ (ขนแกะนะ ไม่ใช่ขนไก่ ขนไก่ไม่แนะนำ) ปัดฝุ่นเบาๆ เคาะไม้บ่อยๆ ฝุ่นเยอะก็ไม่แนะนำไม้ปัดอีก เพราะมันก่อนให้เกิดริ้วรอยขนแมวได้ง่ายเลยหล่ะ
ถ้าไม่ให้ใช้ไม้ แล้วจะทำยังไงหล่ะ คำตอบคือ เอาน้ำฉีดแรงๆ ก่อนล้างรถ กำจัดฝุ่นให้มากที่สุด ก่อนล้าง แต่ถ้าไม่สะดวก พวก optimum onr (ลองหาดู) ผสมน้ำ หรือ เอาใส่ขวดสเปร์ย ฉีด หรือ ชุปผ้าเช็ด ก็พอไหว (แต่ส่วนตัวไม่ชอบ ชอบได้น้ำฉีดล้างฝุ่นมากกว่า)
3. แชมพู ควรใช้เกรดปานกลางเป็นต้นไป หรือ ไม่ก็พวก ไทรตัน ก็พอไหว เพราะ จะไม่ล้างแว้กซ์เดิมออกมากนัก คราบน้ำ ไม่ทิ้งคราบขาวเท่าไหร่ ฟองเยอะ ฟองน้อย อันนี้ก็แล้วแต่ชอบ แชมพูที่บอกว่า มีแว็กซ์ ไม่มีหรอกครับ เอาไว้หลอกขายเฉยๆ ลองเปรียบเทียบแล้ว แชมพูดีๆ มันก็ดีจริงๆนั่นหล่ะ เวลาล้างมันจะลื่น (ไม่เกี่ยวกับฟองนะ แต่มันจะลื่นๆ)แต่จำเป็นหรือเปล่า อีกเรื่องนึง
อ้อ พวกน้ำยาล้างจาน ไม่จำเป็นอย่าใช้ ล้างแว็กซ์ได้ดีมาก แวกซ์อะไรแพงแค่ไหน ล้างเสร็จ เอามือถู ดังเอียดๆ แต่ด้วยคุณสมบัติล้างแว็กซ์ได้ดี บางทีผมจะใช้ล้างแว็กซ์ ก่อนลงแว็กซ์ใหม่ ด้วยน้ำยาล้างจานนี่หล่ะ
4. ไม่แนะนำฟองน้ำ ไม่ว่าจะฟองน้ำใดๆก็แล้วแต่ ใช้พวกผ้าล้างรถโดยเฉพาะดีกว่า เพราะว่า ฟองน้ำมันเก็บพวกฝุ่นทรายได้ดี ล้างออกยาก ใช้ผ้าล้างรถดีกว่า พวกผ้าปุ่มๆ ก็ใช้ได้ ไม่แพงด้วย และ ผ้ายังสามารถล้างตามซอกหลืบได้ดีกว่าฟองน้ำด้วย แถมซักเครื่องได้ด้วย อ้อ ใช้ผ้าสองผืนนะ เด่วจะบอกว่าทำไม
5. ฉีดน้ำให้มากที่สุด จนคิดว่ามันสะอาด จากคราบฝุ่น หรือ คราบโคลน แล้วค่อยล้าง เริ่มจากบริเวณที่สกปรกมากไปก่อน เช่น ซุ้มล้อ ฝากระโปรงหลัง ใต้ท้องรถ แล้วค่อยไปหาส่วนสะอาด กรณีใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจะช่วยได้มาก แถมประหยัดน้ำด้วย ใช้น้ำนิดเดียว
6. แล้ว Foamlance จำเป็นหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่จำเป็น มีก็สนุกดี แต่ไม่ต้องซื้อมาก็ได้ เพราะ foamlance ดีๆ ก็หลายพันอยู่ และ ต้องใช้กับเครื่องฉีดน้ำเท่านั้น แชมพูก็ต้องประเภทใช้กับ foamlance อีก เรื่องมันเยอะ ผสมน้ำในถังดีกว่า ไม่เปลืองด้วย
7. ผสมแชมพูเล็กน้อยในน้ำครั้งแรก ล้างล้อ และ ซุ้มล้อก่อนเลย ข้างบนเอาไว้ทีหลัง แล้วค่อยล้างน้ำให้สะอาด เหตุผลคือ ตรงซุ้มล้อนี่หล่ะ ตัวเก็บฝุ่นทราย เวลาเราล้างข้างบนก่อน บางทีมัน ไปโดย ล้อ หรือ ซุ้มล้อ ทำให้ผ้าเปื้อนทราย คราวนี้ก็ลูบไปทั้งคัน โชคร้ายก็ได้รอยขนแมวแถมมาด้วย
8. เทแชมพูที่เหลือทิ้ง ล้างถังให้สะอาด ผสมแชมพูใหม่ ใช้ผ้าล้างรถผืนใหม่ ผืนเก่าเก็บไว้ไกลๆ อย่าเอามาใช้อีก จนกว่าจะซักให้สะอาด
ล้างจากหลังคาลงมา ด้านข้าง ด้านหลัง และ ด้านหน้า หรือ ไล่มาจากส่วนที่สกปรกน้อยไปมาก ป้องกันการเกิดรอยขนแมวได้อีกทาง
ถ้าซีเรียสมากๆ หรือรถสกปรกมากๆ หาถังอีกใบใส่น้ำเปล่าไว้ พอล้างด้วยแชมพูสักพัก ก็เอาผ้า มาจุ่มล้างน้ำเปล่า ก่อนเปลี่ยนมาจุ่มถังแชมพูล้างส่วนต่อไป
9. พอล้างทั้งคันเสร็จ (แต่ถ้าไม่เชี่ยวชาญ หรือว่า ทำละเอียดมาก อาจจะล้างทีละส่วน) ล้างด้วยด้วยน้ำเปล่า พยายามเน้นล้างตามซอกทั้งหลาย เอาแชมพูออกให้หมด ไม่งั้น คราบรอยน้ำมันจะขาวเพราะแชมพูนี่หล่ะ
10. ใช้ผ้า (แนะนำ ผ้าดีๆเท่าที่คิดว่า ตัวเองจ่ายได้ cobra ก็ได้แต่ส่วนตัวใช้ไม่ถึงขนาดน้ำ เพราะใช้เป็นสิบผืน เพราะล้างบ่อย ใช้ผ้าเยอะ cobra ไม่ไหวอ่ะ ) ชุบน้ำแกว่งๆ แล้วบิดก่อน สักรอบสองสอบ เพราะบางทีผ้าที่เราเก็บไว้นาน ฝุ่นมันลงบนผ้า ยิ่งเช็ดยิ่งเป็นรอย นอกจากนี้ยังทำให้ผ้านุ่ม เช็ดง่าย ซับน้ำดี ไม่แข็งอีกด้วย
ผ้าไม่ต้องผืนใหญ่มาก สัก ตารางฟุตนึงกำลังดี เพราะผืนใหญ่ จะทำให้บิดน้ำยาก แถมชายผ้า อาจจะกองกับพื้น เก็บทรายเอามาถูสีเล่นๆได้อีกต่างหาก
ขั้นตอนนี้ อาจจะหาใบปาดน้ำซิลิโคน (ไม่ใช่พวกใบปาดน้ำกระจกสีดำๆนะ มันจะเป็นสีขาวๆ สำหรับปาดน้ำบนผิวสีรถโดยเฉพาะ) เอามาปาดหยดน้ำออกก่อน ทำให้ลดขั้นตอนในการเช็ดน้ำ แล้วต้องบิดผ้าไปได้เยอะ ไม่ต้องกลัวว่าใบปาดน้ำจะทำให้เกิดรอยขนแมว ผมใช้มานานแล้ว ยังไม่เห็นเป็นรอยขนแมวเลยอ่ะ
ทริกอีกอย่าง คือ เช็ดกระจกก่อน เพราะกระจกมันแข็ง เวลามีฝุ่นทรายมากับผ้า (ต้นเหตุของการเกิดขนแมว อันดับหนึ่งเลย) มันจะไม่ก่อให้เกิดรอยที่กระจก เช็ดแล้วบิด เด่วผ้ามันก็สะอาดไปเอง ตามมาด้วยหลังคา ประตู ฝากระโปรงอะไรก็ว่าไป
11. เช็ดเสร็จ รอสักแป๊บ เผื่อจะมีคราบน้ำหลงเหลืออยู่ ที่มันย้อยลงมาจากตามขอบมุมต่างๆ เช็ด เก็บออกให้หมด ช่วงนี้ ถ้ามี พวกสเปร์ยแว็กซ์ หรือ detailer ก็ฉีดๆ ช่วงที่ผิวสี ยังไม่แห้งมาก แล้วเช็ดอีกรอบ จะทำให้คราบน้ำ เหลือน้อยมาก และ เช็ดน้ำได้ง่ายกว่าไม่ฉีดอะไรเลย แถมจะมีแว็กซ์เคลือบบางๆ ดูแวววาวอีกด้วย
12. หลังจากนั้น เปิดประตู ฝากระโปรงหน้า หลัง เช็ดน้ำ (อาจจะหาผ้าอีกผืน ที่ไม่ต้องแพงมากก็ได้ แต่ขอให้ซับน้ำดีๆ) เช็ดตามซอกประตู เสา ABC ซองฝากระโปรงหน้าหลัง (เวลาปิดฝากระโปรงหลัง มักจะมีน้ำที่ค้างตามกรอบป้ายใหลออกมา เช็ดซะด้วยเลยทีเดียว) อาจจะใช้ detailer ฉีดๆ ก่อนเช็ดจะช่วยให้สีตรงบริเวณนั้น เงางาม และ เกิดคราบได้ยาก
13. เอาผ้า ผืนเดียวกันนั้นหล่ะ เช็ดตามใต้สเกิร์ท (ถ้ามี) ซุ้มล้อ ล้อ และ ยางให้สะอาด ทำบ่อยๆ แมกซ์จะไม่ค่อยมีคราบดำฝังแน่น นานๆทำที อาจจะล้างคราบดำออกยาก
14. อุปกรณ์ทุกอย่างใช้เสร็จแล้ว ถ้ายังไม่ซัก ให้เอาแช่ในถังน้ำไว้ ไม่ต้องตากแห้ง ปรกติผมแช่ทิ้งไว้จนมันเน่า แล้วค่อยเอาไปซักทีเดียว เพราะขี้เกียจซักบ่อย รวมๆกันหลายๆครั้ง แล้วค่อยซักทีเดียว(ผ้าเช็ดรถ ผ้าล้างรถ มีเยอะ ใช้ครั้งเดียวแล้วแช่ พอล้างครั้งต่อไปเอาขอใหม่มาใช้ แล้วก็สะสมจนได้หลายๆผืนแล้วค่อยใส่เครื่องซักทีเดียว)เพราะ ผ้ามันจะนิ่ม และ ฝุ่นที่ติดมากับผ้า มันจะไม่เกาะผ้าฝังลึก ทำให้ผ้าซักคราบดำๆออกง่าย อันนี้รวมไปถึงผ้าที่ใช้ลงแว็กซ์ด้วย แช่มันไว้ยังงั้นหล่ะ จนกว่าจะซัก แวกซ์จะไม่ค่อยติดผ้า
การเอาไปตาก ก่อนซัก จะทำให้ผ้าสกปรกซักไม่ค่อยออก และ ไม่ค่อยนิ่ม ผ้าล้างรถ ไม่ใช่ผ้าที่ใช้สวมใส่ มันต่างกัน
15. อื่นๆ เช่น
ล้างแล้วจานเบรคเป็นสนิม ไม่เป็นไรครับ เป็นปรกติ เบรคทีเดียว สนิมเหล่านั้น มันจะอัตรธารหายไปเอง
ใช้เครื่องเป่าลมเป่าหยดน้ำออก ก็ช่วยได้เยอะ เมื่อก่อนใช้ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ใช้ เพราะเสียงมันดัง เกรงใจข้างบ้าน และ เครื่องเป่าลมแนะนำของดีๆ ไปเลย ของถูกอย่าใช้ เพราะมันระเบิดมาเยอะแล้ว
ว่างๆล้างพื้นโรงรถให้สะอาด เพราะจะทำให้ฝุ่นทรายมีน้อยลง โอกาศที่จะทำให้ผ้าเปื้อนทรายก็มีน้อยลง
ถ้าไปลุยโคลนมา ล้างส่วนสกปรกก่อน ล้างมันทีละส่วน ใจเย็นๆ ใช้ที่ฉีดน้ำแรงดันสูงช่วย ในกรณีไม่มี แนะนำไปล้างตาม carcare ดีกว่า
ล้างห้องเครื่องด้วยน้ำได้มั๊ย คำตอบคือได้ แต่ไม่ควร เพราะเมื่อก่อนผมล้างประจำ เอาสเปร์ยล้างห้องเครื่องฉีดแล้วล้างด้วยน้ำ มาเป็นเวลาหลายปี ก็ไม่เป็นไรนะ แต่ล่าสุด พัดลมไฟฟ้า เสีย ไม่รู้ว่า มาจากน้ำที่ล้าง หรือ เพราะอายุการใช้งานก็ไม่รู้ ไม่แน่ใจอย่าเสี่ยงดีกว่า
ลงแว็กซ์ทำให้หยดน้ำกลม เวลามันแห้ง มันจะทิ้งคราบด่างๆเป็นดวงๆ ได้ง่ายกว่าไม่ลงแว็กซ์ ให้ตายเหอะ ไปลุยฝนมา ถ้าว่าง ก็รีบล้างมันเสีย ตอนได้ swissvax shield มาใหม่ๆ ลงแว็กซ์แล้วไปเหนือ ลุยฝนไปสี่วัน กลับถึงบ้าน ล้างคราบน้ำไม่ออก สรุปว่า ต้องขัดออกหมดเลย ทั้งคราบน้ำและแว็กซ์
ขี้นก ยางไม้ เป็นอันตรายต่อผิวสี อันดับหนึ่ง เวลาโดนของเหล่าน้ำ ให้เอาทิชชู่ชุบน้ำเช็ดออกอย่างรวดเร็ว หรือ เทพๆหน่อยก็ ใช้ detailer ฉีดแล้วเช็ดออก อย่าปล่อยไว้ มันจะกัดสี ต่อให้แว็กซ์กระปุกละหมื่น ก็ไม่ช่วยนะ
ถ้ามีเวลาเหลือเยอะ ล้างเสร็จ เอาไปขับเล่นรอบหมู่บ้าน สักรอบสองรอบ เป็นการสบัดน้ำ ทำให้น้ำตามหม้อน้ำ ตามซอกหลืบแห้ง และ ลดอาการเบรคมือติดได้ด้วย แต่ผมไม่ค่อยได้ทำ ขี้เกียจอ่ะ
สายยาง ควรจะยาวๆไว้ก่อน เวลาเดินรอบรถ พอสายมันตึง เรามักจะพยายามดึงๆ บางทีมันสะบัดไปโดนสีรถเป็นรอยได้เหมือนกัน ต่อนิดนึงเรื่องดูแลสีประจำวัน (เรื่องขัด และ แว็กซ์มันยาว ไว้ทีหลัง) รถควรตากแดดบ้าง เพื่อใล่ความอับชื้น ป้องกันกลิ่น เชื้อราตามซอกเบาะ พรม ไม่ต้องกลัวสีหมอง ที่ออฟฟิต มีที่จอดรถกลางแจ้งตากแดดทั้งวัน สีก็ไม่หมอง สีสมัยนี้ ไม่ใช่ขี้ๆครับ แต่ไม่ควรตากแดดต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ(จอดตากแดดหลายๆเดือนหลายๆปี) เพราะพวกยาง และ พลาสติก มันจะเสื่อม เปราะแตกได้ง่าย แถม จะมีกลิ่นฟองน้ำเสื่อมอีก จอดในร่มดีกว่า ถ้าเลือกได้รอยเปื้อนฝังลึก อาจจะใช้แชมพูเปล่าๆ ถูๆด้วยนิ้ว ก่อนล้าง ห้ามใช้เล็บขูดออก เพราะมันจะกินเนื้อแว็กซ์ ทำให้เป็นรอย หรือ ถ้ายังไม่ออกอีก ใช้เครื่องขัดแบบ dual action (อันละพันนิดๆ ตามห้างทั่วไป) ผสม cleaner wax ที่มีน้ำยาขัดอ่อนๆ amway ก็ใช้ได้ ขัดออก ห้ามขูดเด็ดขาด รถสีดำ จะเป็นฝุ่น รอยนิ้วมือได้ง่ายที่สุด ตามด้วยสีขาว สีที่ดูแลง่าย คือที่เงิน สีเทา แต่ในทางกลับกับ เวลา wax แล้ว สีดำที่ขาว มันจะแวววาวสวยกว่าสีอื่น เวลาผสมแชมพู ไม่ต้องใช้เยอะ เอาตามที่ฉลากแนะนำ ใช้น้ำเยอะน่อย เวลาผสมก็ใช้น้ำฉีดแรงๆ ฟองมาเอง เพราะเวลาล้างจริงๆ ถ้าจุ่มบ่อยจะเปลือง ประเภทใช้น้ำน้อยๆ แชมพูเยอะๆนี่ ไม่ค่อยแนะนำครับ เพราะเราจะไม่ค่อยจุ่มผ้า กลัวมันหมด ผ้ามันจะเก็บสิ่งสกปรกไว้ แชมพูที่เหลือจากการล้าง ทิ้งเหอะครับ น้ำมันเน่าแล้ว เอาไปล้างโรงรถ รถน้ำต้นไม้ หรืออะไรก็ได้ แต่อย่าเอาไปล้างอีกคันนึง หรือเก็บไว้ล้างอีกครั้งหนึ่ง ได้ไม่คุ้มเสีย
บริษัท คลีน พลัส ( ประเทศไทย ) จำกัด เป็น บริษัททำความสะอาด บริษัท รับ ทำความสะอาดดำเนิน ธุรกิจทำความสะอาด ทำความสะอาด หลังน้ำท่วม แบบครบวงจร เกี่ยวกับการ บริการทำความสะอาด ทำความสะอาดกระจกสูง โดยวิธี โรยตัว และ ให้บริการทำความสะอาด แก่ หน่วยงานชั้นนำ เช่น ทำความสะอาดอาคารสำนักงาน ทำความสะอาดห้างสรรพสินค้า ทำความสะอาดโรงพยาบาล โรงแรมหรือเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ โรงงานอุตสาหกรรม และ บริการทำความสะอาดตึกสูง ทำสีอาคารสูง ยิงซิลิโคน ทำความสะอาด composite ทำความสะอาดในที่สูง ทำความสะอาดกระจก ทำความสะอาดอาคาร ทำความสะอาดบ้าน ก่อนเข้าอยู่ ทำความสะอาด หลังน้ำท่วม ทั่วไป และ เช็ดกระจกภายนอกอาคารสูง ทาสีอาคารสูง ยิงซิลิโคน และ ยังให้บริการทำความสะอาด ต่างๆ ดังนี้ ทำความสะอาดหลังน้ำท่วม ปัดหยากไย่ ในที่สูงทำความสะอาดโรงงาน ทำความสะอาดสำนักงาน ทำความสะอาดอาคาร ทำความสะอาดพื้น ทำความสะอาดผนัง ทำความสะอาดโรงเรียน ทำความสะอาดโคมไฟ ทำความสะอาดพื้นโรงงาน ทำความสะอาดคลังสินค้า ทำความสะอาดบ้านสร้างเสร็จใหม่ ทำความสะอาดบ้านย้ายออก ทำความสะอาดตึกก่อนเข้าอยู่ ทำความสะอาดบ้านเก่าก่อนเข้าอยู่ ทำความสะอาดบ้านตัวอย่าง ทำความสะอาดถังน้ำมัน ทำความสะอาดถังเก็บน้ำ ทำความสะอาดแผงโซล่าเซล ทำความสะอาดร้านค้าในห้างสรรพสินค้า ทำความสะอาดกระจก ทำความสะอาด Show Room ทำความสะอาดโรงเรียน ทำความสะอาดพื้นอีพอกซี่ ทำความสะอาดป้าย ทำความสะอาดโครงหลังคา ทำความสะอาด ปัดหยากไย่ ขัดพื้น ลงแวกซ์ เก็บคราบปูน ก่อนส่งมอบงาน ทำความสะอาดงานอีเวนท์ ต่างๆ ทำความสะอาดโรงงาน ทำความสะอาดโรงงานหลังน้ำท่วม ทำความสะอาด ประจำปี หรือ ประจำไตรมาส หรือ ประจำเดือน และ รับทำความสะอาดทั่วไป ทุกชนิด และบริการทำความสะอาด หลังน้ำท่วม ประกอบด้วย ทำความสะอาดบ้าน หลังน้ำท่วม ทำความสะอาดโรงงาน หลังน้ำท่วม ทำความสะอาดShow Room หลังน้ำท่วม ทำความสะอาดสำนักงาน หลังน้ำท่วม ทำความสะอาดบ้าน หลังน้ำท่วม ปัดหยายไย่ โครงหลังคา ปัดหยากไย่โรงาน ปัดหยากไย่ภายในโครงงาน ปัดหยากใย่ในที่สูง